Monday, October 26, 2015

6 เทคนิคตั้งชื่อหนังสือให้โดนนนน!!!

หลินเคยได้ยินว่ามีคนบอกว่าปกหนังสือก็เหมือนรักแรกพบของคนอ่าน เห็นครั้งแรกบอกเลยว่าชอบ ไม่ชอบ และการที่บอกว่าชอบไม่ชอบในแว๊บแรกที่เห็นนี่ล่ะค่ะ มีผลเยอะเลยต่อการตัดสินใจว่าจะซื้อ หรือไม่ซื้อ ดังนั้น ประโยคข้างบนที่พูดคงจะถือว่าไม่เว่อร์เท่าไหร่นะคะ

และเพราะว่าชื่อหนังสือสำคัญซะขนาดนี้เอง วันนี้มีตำราฝรั่งเค้าแนะนำเทคนิคการตั้งชื่อหนังสือให้โดนใจคนอ่านค่ะ

มาติดตามกันนะคะ^^

ภาพจาก https://amyjarvisillustration.files.wordpress.com


ข้อ 1 รู้จักกลุ่มผู้อ่านเป้าหมายของเรา
ลองตั้งคำถามทำนองนี้กับตัวเองดูค่ะ

กลุ่มผู้อ่านเป้าหมายของเราเป็นใคร ชอบอ่านเรื่องราวแบบไหน แล้วทำไมเค้าต้องชอบเนื้อหาแบบนี้ของเรา เราอยากให้คนอ่านหนังสือเราจบแล้วมีความรู้สึกยังไง เช่น สนุกสนาน มีแรงบันดาลใจ ฯลฯ  หนังสือของเราแตกต่างจากหนังสือของคนอื่นๆ ในหมวดเดียวกันยังไง

สำคัญคือ แล้วเราจะตั้งชื่อหนังสือยังไงให้โดนใจเค้า ถ้ากลุ่มเป้าหมายเราเป็นแฟนคลับเกาหลี คำว่า "โอปป้า" ก็น่าเลือกใช้มากกว่าคำธรรมดาอย่าง "สุดหล่อเกาหลี" หรือเปล่าคะ?

ข้อ 2  ดูหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรา
วิธีการคือไปร้านหนังสือ หรือหาหนังสือออนไลน์ก็ได้ค่ะที่เกี่ยวข้องกับหนังสือของเราที่กำลังจะเขียน สมมติว่า เราอยากเขียนนิยายเกี่ยวกับชีวิตหญิงสาวชาวกรุงเทพฯ เมื่อ 40 ปีก่อนเป็นตัวเอก เราก็ควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับสวนลุมฯ (ที่ๆ คนมีตังสมัยก่อนไปเที่ยว) งานกาชาด โรงหนังสกาล่า ภัตตาคารห้อยเทียนเหลา หนังสือเกี่ยวกับสาวสังคมสมัยก่อน กิน ดื่ม เที่ยวที่ไหน แต่งตัวยังไง ฯลฯ

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้จดชื่อที่คุณชอบออกมา เพื่อที่ว่าคำไหนจะสามารถจะเอามาพัฒนาเป็นชื่อหนังสือและอธิบายเนื้อหาหนังสือในเล่มได้บ้าง

ข้อ 3 คิดชื่อให้สั้นเข้าไว้
ปกที่ดีควรจะสั้นเข้าว่า (ยกเว้นบางกรณีที่ยาวแล้วโดน แต่ปกติสั้นจะคนจะจำได้ง่ายกว่า)

ข้อ 4 คิดชื่อให้อ่านทีเดียวแล้วเห็นภาพ
ถ้าชื่อหนังสือของเราสามารถสร้างมโนภาพในใจคนอ่านได้ นั่นคือโบนัสที่ถือว่าเจ๋งสุดๆ ค่ะ ลองจินตนาการถึงหนังสือชื่อ "ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต" นวนิยายรางวัลซีไรต์ 2558 อืมมม์..มันชวนให้คิดตามซะจริงๆ ว่าตาบอดยังไม่พอ ยังอยู่ในเขาวงกตซะอีก อะไรจะรันทดขนาด แล้วชีวิตนี้จะหาทางออกได้ไหมเนี่ย??

ข้อ 5 คิดชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
เรื่องสำคัญที่ควรรู้ในข้อนี้ก็คือ ชื่อหนังสือ "ไม่มีกฏหมายลิขสิทธิ์คุ้มครอง"  ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่ชื่อหนังสือเราจะไปซ้ำกับชื่อหนังสือคนอื่น ซึ่งเอาจริงๆ ไม่มีผลดีกับใครสักฝ่าย โ้ดยเฉพาะชื่อที่เป็นชื่อทั่วไปมากๆ เช่น Feel Good หรือ Lovesick

วิธีการที่ดีอีกวิธีหนึ่งก็คือ ลองลิสต์ชื่อหนังสือทั้งหมดออก อาจจะใช้วิธีดึงเอาชื่อตัวเอก คาแรกเตอร์ตัวเอง ชื่อสถานที่ หรือประโยคยอดฮิตในหนังสือมาเป็นชื่อหนังสือเพื่อหลีกเลี่ยงชื่อที่ซ้ำค่ะ

ข้อ 6 คิดชื่อให้ชัดเจน
แน่นอนที่สุดว่า ชื่อหนังสือควรจะเกี่ยวกับเรื่องราวในหนังสือ เอาเป็นว่ากลุ่มเป้าหมายเราควรอ่านทีเดียวแล้วเข้าใจว่าหนังสือเกี่ยวกับอะไร แต่ผู้อ่านที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายก็ควรอ่านแล้วรู้เรื่องด้วย ระวังพวกศัพท์เทคนิค ศัพท์เฉพาะทาง ไม่เหมาะกับการตั้งชื่อเรื่อง

ถ้าเราไม่ได้เขียนนิยาย ชื่อเรื่องที่ดีควรจะบอกคนอ่านว่าอ่านจบแล้วได้อะไร เช่น  โยคะสูตรหน้าเด็ก รวยด้วยอสังหา ฯลฯ

ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ^^ หลินขอให้หนังสือของทุกๆ คนขายดีมากๆ เลยค่ะ เพี้ยงๆๆ

หลิน^^

#########################


คอร์สอบรมเรียนเขียนเพื่อขาย Amazon !!

มาแว้ววว! คอร์ส เรียนเขียนเพื่อขาย Amazon Kindle ค่ะ

ขอเชิญทุกคนที่สนใจอยากรู้วิธีขายงานเขียนบน Amazon มาเจอกันค่ะ 
http://goo.gl/MQklJQ



วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 เวลา 13.00-17.30 (อาจเกินนิดหน่อยนะคะ เพราะเนื้อหาเยอะมากกกกก)
สถานที่ก็ที่ Silom Space ใกล้กับ BTS ศาลาแดง

รายละเอียดคอร์ส คลิ๊กลิงค์ข้างล่างได้เลยค่ะ

http://goo.gl/MQklJQ




No comments:

Post a Comment