Monday, September 7, 2015

5 เทคนิคอ่านหนังสือได้เร็วจี๋!! แบบปุ่มสปีดปรับไม่ทัน!

หลินว่าเราคงเคยได้ยินมาบ้างว่า จะเป็นนักเขียนที่ดีได้ต้องเป็นนักอ่านที่ดีด้วย  เพราะถ้าเราอ่านหนังสือได้มาก คลังคำศัพท์และความรู้รอบตัวต่างๆ ของเราจะเยอะ สะสมไปๆ พอถึงเวลาเราต้องเขียนจริงๆ สมองเราก็จะดึงความรู้พวกนี้มาใช้ได้ทัน

และการที่เราจะเป็นนักอ่านที่ดีได้ เราควรอ่านหนังสือได้มากพอ ปัญหาก็คือ ทุกวันเนี้ยคนเรามีเวลาน้อยลงเรื่อยๆ สารพัดเรื่องราวที่ต้องทำในแต่ละวัน แถมเจอรถติดมหาโหดเข้าไปอีก วันๆ แทบไม่เหลือเวลาแม้แต่จะนอน

หลินไปอ่านเจอเทคนิคการอ่านหนังสือเร็วของฝรั่งมาค่าาา เลยเอามาแบ่งปันกันดีกว่า เอาไว้ใช้ปรับปุ่มสปีดการอ่านของเรานะคะ^^

ติดตามกันเลยค่าา




1. เทคนิคอ่านให้เร็วขึ้นโดยใช้นิ้วไล่ตามบรรทัด
เทคนิคนี้แนะว่าเราจะอ่านเร็วขึ้นได้ ถ้าใช้นิ้วไล่ไปตามบรรทัดที่อ่าน เพื่อจะได้ไม่ต้องฟังเสียงอ่านตัวเองในใจ (ซึ่งคนปกติมักเป็น ทำให้อ่านช้า) จะได้อ่านต่อไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น  วิธีนี้ช่วยให้อ่านหนังสือจาก speed 200 คำ/นาที เป็น 1,000 คำ/นาทีเลยทีเดียวค่ะ

2. ไม่ต้องอ่านจนจบเล่ม?!
เอ๊ะ! ยังไงน้าาา  เพราะปกติเราซื้อหนังสือเล่มนึงมา เราก็พยายามอ่านให้จบใช่ไหมคะ ถึงแม้บางทีจะรู้สึกว่าอ่านแล้วโคตรเบื่อเลย แต่ที่สุดก็พยายามอ่านจนจบอยู่ดี แต่อาจใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี หรือไม่ก็เก็บไว้กะว่าจะกลับมาอ่านแล้วก็ลืมไปเลย

เทคนิคนี้บอกว่าทำแบบที่เราทำกันเนี่ย เสียเวลาฝุดๆ เลยนะ!

เพราะว่าหนังสือทั่วไปเล่มนึงเนี่ย จะมีประเด็นสำคัญแค่ 1-2 ประเด็นเท่านั้น ถ้าหนังสือดีๆ อาจจะมี 2-3 ประเด็น ถ้าหนังสือเทพๆ อาจมีไอเดียเจ๋งๆ ได้ถึง 3-5 ประเด็น ในความเป็นจริงก็คือหนังสือส่วนใหญ่เป็นหนังสือทั่วไปที่อยู่ในค่าเฉลี่ยเท่านั้นค่ะ 

ส่วนนักเขียนทั่วไปอาจจะเขียนไอเดียเจ๋งๆ ออกมาประมาณ 20 หน้า แต่หนังสือแค่ 20 หน้าจะขายได้ยังไงกันล่ะ? นักเขียนจึงต้องหาอะไรมาเติมให้ได้ 200 หน้าถึงจะทำเป็นหนังสือขายได้ วิธีนี้ทั้งนักเขียนทั่วไปและนักเขียนเทพๆ ก็ทำเหมือนกันหมด (คือหาอะไรมาเพิ่มมาเติม)

แล้วหยั่งงี้เราจะเสียเวลาอ่านหนังสือจนจบเล่มทำไม?? 

อืมมมม...น่าคิดเหมือนกันเนาะ หลินอ่านจนจบทุกเล่มเลย แต่บางเล่มใช้เวลาเป็นปีๆๆ ทำผิดทางมาตะล๊อดดดสิเรา

เทคนิคนี้แนะว่าควรจะอ่านผ่านตาแบบ skim ก่อนเพื่อหาประเด็นของหนังสือ ใช้สารบัญให้เป็นประโยชน์ ทำสัญญลักษณ์ไว้ตรงที่ไม่เข้าใจ  (ครั้งแรกให้ใช้เวลาแค่ 3-5 นาที)

ครั้งที่ 2 กลับมาอ่านอีกแค่ 30 นาที ตรงที่เป็นประเด็นสำคัญและเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจดี (อ่านแบบ scan)

สุดท้าย ถ้าหนังสือเล่มนี้คุ้มค่าที่จะอ่านอีกรอบ ให้ใช้เวลา 1-2 ชม.ในการอ่านรอบที่ 3

ถ้าทำแบบนี้ได้ เราจะสามารถอ่านหนังสือหนึ่งเล่มด้วยการใช้เวลาน้อยกว่า 3 ชม.!!

3. กำหนดเวลาที่อ่านให้ชัดเจน
แนะนำว่าให้ตั้งเป้า 4 ชม.กับหนังสือหนา 200-300 หน้า แล้วตั้งใจอ่าน แบบอ่านนิยายค่ะ คือไม่ให้มีอะไรมากวน

อาจจะมีคนคิดว่า โฮ้ยยย!! ใครจะทำได้ 4 ชม.หนังสือเล่มนึง เทคนิคนี้เค้าบอกว่าถ้าเราบอกว่า 4 ชม. จะอ่านให้จบ สมองเราจะพยายามทำให้ได้ แต่ถ้าเราบอกไว้เดือนนึงอ่านให้จบ รับรองว่าไม่จบ เพราะเราไม่ตั้งใจจะทำ จะไปทำนู่นทำนี่ทำนั่น ที่สุดแล้วไม่จบชัวร์

ถ้าอ่านแล้วเจอเรื่องไม่เข้าใจ ให้เขียน note ไว้แล้วกลับมาอ่านทีหลัง อย่าพยายามหาคำตอบให้ได้ในครั้งแรกที่อ่านเพราะจะเสียเวลา และสุดท้ายเรื่องที่เราไม่เข้าใจนั้นอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยนะ (เหมือนทำข้อสอบเลยอ่ะค่ะ ว่าม่ะ?)

4. เริ่มจากหนังสือเล่มง่ายๆ ก่อน
แทนที่จะเริ่มจากหนังสือโคตรยากหนา 1,000  หน้า ให้เริ่มจากหนังสือง่ายๆ หนา 100-150 หน้าก่อน ให้มีความมั่นใจแล้วค่อยไปต่อจะดีกว่า

พออ่านได้แล้ว ค่อยพัฒนาความสามารถในการอ่านตัวเอง ให้อ่านหนังสือได้หนาขึ้นๆ และยากขึ้นเรื่อยๆ

5. อ่านแต่หนังสือที่คุ้มค่าจะอ่าน
สั้นๆ เลยเพราะเวลาเรามีจำกัด ไหนๆ จะเลือกอ่านทั้งที ให้อ่านอะไรที่มีประโยชน์ต่อเราค่ะ
อะไรที่ไม่มีประโยชน์อย่าเสียเวลาอ่านเลย เอาเวลาไปนอนดีก่าา (หลินพูดเอง 55)

หวังว่าจะได้เทคนิคแจ่มมะว้าวว กันถ้วนหน้านะคะ ใครมีเทคนิคเจ๋งๆ ยังไงก็แชร์กันได้ค่าา

หลิน^^










No comments:

Post a Comment