คราวที่แล้วเราคุยกันว่า ถ้าเขียนหนังสือออกขายแล้ว วางไว้เฉยๆ เดี๋ยวผล
งาน master piece ของเรา คุณผู้อ่านจะไม่เห็น บางทีหนังสือดีมากค่ะ แต่ว่าโอกาสคนเห็นน้อย เปรียบประหนึ่งทำกับข้าวอร่อย สูตรลับจัดเต็มแต่ร้านอยู่ในซอยลึก เลี้ยว 8 ตลบกว่าจะเจอ
ทำนองเดียวกันค่ะ
ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องหาตัวช่วยมาเป็นมือขยันผลักดันหนังสือเราให้คนเห็นเย๊อะๆๆ
ตัวช่วยพวกนี้มีหลายแบบ จริงๆ Amazon Kindle เองก็มีระบบทำโปรเพื่อช่วยนักเขียนด้วยเหมือนกันค่ะ โปรยอดฮิตที่ได้ความนิยม ก็เช่น
count down deal (ลดราคาหนังสือเป็นขั้นบันได)
lending program (ให้คนอื่นยืมหนังสือฟรีในระยะเวลาที่กำหนด)
gift (ซื้อหนังสือเป็นของขวัญให้กับคนอื่น) ฯลฯ
หรือที่สุดแล้ว นักเขียนบางคนแจกฟรีผลงานของตัวเองในช่วงแรกๆ เลยด้วยซ้ำค่ะ (free promo)
หลายคนคงคิดว่า โอ้ย..อุตส่าห์คิดงานแทบแย่ ถึงเวลาเอาไปให้โหลดอ่านฟรีๆ เลยเหรอ ? แล้วคนเขียนจะได้อาไร
แต่เชื่อไหมคะว่ามีคนทำและทำเยอะด้วยค่ะ
เพราะว่าหนังสือบางเล่มเป็นตอนๆ เป็นซีรีย์ ๆ นักเขียนบางคนเริ่มต้นยังไม่เป็นที่รู้จักในวงการ แต่อยากหาที่เผยแพร่ผลงาน ก็เริ่มจากการแจกหนังสือให้อ่านฟรีกันก่อน พอคนอ่านติดแล้วอยากติดตาม เล่มต่อไปก็ขายค่ะ ด้วยวิธีนี้ทำให้นักเขียนคนนี้สร้างฐานแฟนคลับติดตามได้ พอหนังสือเล่มใหม่ออก ก็มีฐานแฟนคลับกลุ่มนี้ค่ะ คอยซื้อเป็นมือแรกๆ ช่วยสร้าง traffic ใน post ของหนังสือเล่มนั้นๆ ค่ะ
ดังนั้น ในฐานะนักเขียนเราเองก็ต้องหาวิธีทำโปรหนังสือของเราด้วย ถี่ห่างมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับความเหมาะสม ถ้าตั้งใจจะขายอยู่แล้ว (ไม่ได้ตั้งใจจะให้แจกฟรี) ก็อย่าลดราคาบ่อยนัก ไม่งั้นคนจะรอซื้อแต่ตอนลดราคานะเออ
ในหน้าแรกของ eBook ใน Amazon จะมีหนังสืออีกหมวดชื่อว่า Top 100 Free หนังสือหมวดนี้ก็หมายถึงว่าคนเขียนตั้งใจแจกฟรีแบบถาวร ไม่มีระยะเวลาจำกัดในการโหลด
ถ้าหนังสือเล่มไหนติด Top 100 Free แปลว่าคนเห็นมาก รู้จักมากกว่าเล่มอื่นๆ ถ้าเทียบของไทยก็ประหนึ่งติดกระทู้แนะนำในพันทิปค่ะ เวลานักเขียนคนนี้ออกหนังสือเล่มใหม่ก็มีโอกาสที่คนจะซื้อมากกว่า หนังสือเล่มที่ผู้อ่านไม่รู้จักผู้เขียนเลย
ด้วยวิธีนี้หนังสือระดับตำนานของพวกเรา ก็จะมีโอกาสออกสู่สายตาประชาชีมากกว่าเดิมค่ะ เพียงแค่เรารู้จักวิธีโปรโมทเท่านั้นนๆๆ
สู้ๆ นะคะ
หลิน
No comments:
Post a Comment